ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ไหนจะเพื่อนร่วมงานที่มีความสุ่มเสี่ยง ไหนจะสถานที่ทำงานที่มีผู้ติดเชื้อ ซึ่งใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที เลยทำให้หลายๆ บริษัทออกนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือ “Work from Home” กันบ้างแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ วันนี้เลยมีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การทำงานที่บ้านของคุณมีประสิทธิภาพ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันครับ
ที่มาของข้อมูล : brandbuffet.in.th, moneyguru.co.th, blog.jobthai.comการทำงานออนไลน์นอกจากจะสะดวกในแง่ของการจัดเก็บเอกสารแล้ว ยังสะดวกที่จะให้ทีมสามารถเข้าถึงงานที่ทำและสามารถอัพเดตงานกันได้แบบ real time ซึ่งปัจจุบันก็มีโปรแกรมสำหรับการจัดการเอกสารบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากมาย ทำให้งานได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
เป็นที่แน่นอนว่าคุณจะทำงานที่ไหนก็ได้ภายในบ้าน บางคนยกโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานบนที่นอนจนเผลอนอนหลับ บางคนก็มานั่งทำงานที่โซฟาพร้อมเปิดซีรีส์ไปด้วยดูเพลินจนไม่ทำงาน เพื่อตัดปัญหาเหล่านี้ควรแยกพื้นที่ทำงานกับการพักผ่อนให้เป็นสัดส่วน มิเช่นนั้นงานจะไม่เดิน ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง ทำให้งานล่าช้า งานผิดพลาดได้
สำหรับคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศมาจนเคยชิน การจะหันไปปรึกษาหัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานมักเกิดขึ้นได้โดยง่าย แค่หันหน้าไปก็พูดคุยได้แล้ว แต่การทำงานกันคนละที่แบบ Work from Home จะทำให้การพูดคุยกันนั้นน้อยลง ซึ่งสุดท้ายอาจทำให้งานล่าช้า หรือมีปัญหาได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการพูดคุย จัดระเบียบรูปแบบการสื่อสารให้ดี ซึ่งเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมให้เราได้ Chat พูดคุยกัน หรือ Video Conference ก็มีมากมาย เพื่อไม่ให้พลาดการสื่อสาร
จากเดิมที่มีเวลา Office Hour คอยกำหนดเวลาในการทำงาน เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Work from Home ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง เพราะเวลาที่เรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน จะไม่มีทั้งเพื่อนร่วมงาน และไม่มีหัวหน้าที่จะมาคอยควบคุม ดังนั้นควรวางแผนและจัดการตารางการทำงานให้ดี เพื่อให้งานเสร็จลุล่วงได้ตามเวลา
แม้ว่าจะ Work from Home ทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่อาจห้ามคนในบ้านให้ออกไปไหนได้ เพราะบางคนมีความจำเป็นที่ต้องออกไปข้างนอก ในสถานการณ์ COVID-19 กำลังระบาด แค่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ก็มีความเสี่ยงแล้ว จะดีกว่าไหม? ถ้ามีประกันสุขภาพฟินชัวรันส์ติดตัวไว้ เผื่อวันใดเกิดเจ็บป่วยหรือติดเชื้อ COVID-19 ขึ้นมา อย่างน้อยๆ ยังมีประกันฟินชัวรันส์ไว้ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาลและคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งการเจ็บป่วยจากโรคร้ายต่างๆ รวมถึง โควิด-19 ไข้หวัดนก ไวรัสเมอร์ส และไวรัสซาร์ พร้อมยังให้ความคุ้มครอง OPD รวมสูงสุด 50,000 บาทต่อปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง Work from Home ก็ดี แต่ถ้าจะให้เวิร์คกว่านี้ ... ต้องมีฟินชัวรันส์