ในโลกที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามาสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องของกีฬาหรือการออกกำลังกายก็เช่นกันครับ วันนี้เรามารู้จักกับการวิ่งแบบใหม่ที่วงการวิ่งกำลังให้ความสนใจซึ่งมีชื่อว่า Virtual Run การวิ่งแบบกำหนดวันและเวลาแล้ววิ่งให้พร้อมกัน เป็นการวิ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง จะเริ่มวิ่งพื้นที่ไหนเวลาใดก็ได้ตามแต่คนวิ่งสะดวก กติกาก็ง่ายๆ คือ วิ่งให้ครบในช่วงระยะเวลาที่กำหนด อาจจะเป็นวันหรือเดือน เพียงแต่ต้องมีอุปกรณ์จับเวลา ระยะทางและสัญญาณ GPS ที่สามารถอัพโหลดเข้าระบบให้คนในกลุ่มหรือผู้จัดการแข่งขันสามารถตรวจเช็คได้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่าข้อดีของการวิ่งแบบใหม่นี้มีอะไรบ้าง
สำหรับคนที่เคยไปงานวิ่งแล้วขับรถไปเองจะรู้ดีว่าการหาที่จอดรถในยามเช้าตรู่ตามสวนสาธารณะนั้นยากเย็นเพียงใด แต่การวิ่งแบบ Virtual Run ทำให้คุณสามารถวิ่งที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องตื่นเช้ากว่าเดิมเพื่อแย่งที่จอดรถกับใคร เพียงแค่มีวินัยก็พอแล้วครับ
สำหรับคนที่ต้องการวิ่งแบบรักสงบ ไม่ชอบวิ่งพร้อมกับคนเยอะๆ การวิ่งแบบ Virtual Run นี้ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก คุณอยากวิ่งที่ไหนก็วิ่งได้ ชอบสถานที่ไหนก็เลือกได้ตามต้องการ
นอกจากจะสะดวกสบายในเรื่องของการลงแข่งวิ่งแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นโปรแกรมฝึกซ้อมอย่างหนึ่งได้เช่นกัน เป็นการเทรนเสมือนจริงที่นักวิ่งสามารถทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ฝึกระบบการรับอาหารระหว่างวิ่งระยะไกลการดื่มน้ำ การพักฟื้นร่างกายหลังแข่งขัน ตลอดจนสามารถใช้เป็นการกระตุ้นแรงใจ (Motivation) ให้อยากฝึกวิ่งมากขึ้นอีกด้วยครับ
ส่วนข้อเสียนั้นก็อาจมีอยู่บ้างสำหรับคนที่อยากได้เพื่อนหรือชื่นชอบบรรยากาศคึกคักของงานวิ่ง เพราะอย่างที่เรารู้การที่เราไปร่วมวิ่งในงานต่างๆ ส่วนใหญ่เราก็จะได้เจอคนที่รักการออกกำลังกายเหมือนเรา บางทีอาจสานสัมพันธ์เป็นเพื่อนที่ดีในอนาคตได้เลยครับ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกวิ่งแบบไหนก็อุ่นใจได้เพียงมี ประกันอุบัติเหตุฟิตแอนด์ฟิน 365 จากแมนูไลฟ์ ที่จะทำให้ทุกก้าววิ่งของคุณได้รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 300,000 บาท โดยจ่ายเบี้ยเพียงวันละ 1 บาท หรือปีละ 365 บาทเท่านั้นครับ