เพื่อนๆ อาจเคยเห็นภาพขวดน้ำหรือห่อขนมที่ทานหมดแล้ว ถูกทิ้งไว้เกลื่อนชายหาดหรือตามทางเดินแถวน้ำตกใช่ไหมครับ สิ่งเหล่านี้เกิดจากความไม่ใส่ใจและขาดความรับผิดชอบต่อธรรมชาติของมนุษย์ หรือเอาจริงๆ อาจเรียกได้ว่า มักง่าย แต่ก็ยังมีอีกหลายคนหลายหน่วยงานที่ตระหนักถึงปัญหาของการที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายในระยะยาว จึงมีการรณรงค์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อลดการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงมากที่สุด พร้อมช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ในสภาพเดิม จนเกิดเป็น “การท่องเที่ยวแบบอีโค่” (Ecotourism) ขึ้นนั่นเอง
การเที่ยวแบบอีโค่ เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในไทยและในระดับสากล เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้ทุกคนมาท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์กัน มาดูกันครับว่าเราจช่วยรักษ์โลกได้อย่างไรบ้าง
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าทิชชู่ธรรมดาทำมาจากกระดาษซึ่งสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ง่าย แต่สำหรับทิชชู่เปียกแล้วส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าที่มีเส้นใยพลาสติก การย่อยสลายจึงยากกว่าหลายเท่าตัวไปจนถึงไม่สามารถย่อยสบายได้ และเมื่อถูกทิ้งลงทะเล บรรดาสัตว์น้ำก็อาจจะกินเข้าไปจนเกิดอันตรายได้
เวลาที่เราไปเที่ยวน้ำตก บ่อยครั้งเรามักจะเห็นถ้วยโฟมใส่อาหารรวมถึงแก้วน้ำพลาสติกกองเกลื่อนตรงจุดพักบ้าง ตรงทางเดินบ้าง ดังนั้นเราควรเปลี่ยนไปเลือกใช้จานชามแบบย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ก็จะช่วยรักษาทัศนียภาพและไม่ทำให้ระบบนิเวศน์ของสถานที่นั้นๆ ถูกทำลาย
หลายสถานที่ท่องเที่ยวมักจะมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ถ้าลองคำนวณดูแล้วระยะทางที่เราจะไปนั้นไม่ไกลกันมาก ลองเปลี่ยนมาเช่าจักรยานดู ราคาค่าเช่าอาจจะถูกกว่า อีกทั้งไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำมัน ไม่สร้างมลพิษเพิ่มให้กับธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานแล้วยังได้ออกกำลังกายอีกด้วยครับ
สิ่งเหล่านี้ถูกปลูกฝังมาหลายยุคหลายสมัย แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคนว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งการคัดแยกขยะเพื่อสนับสนุนเรื่องการรีไซเคิลหรือารทิ้งขยะให้ถูกที่ ก็เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบของเราอีกทางหนึ่งต่อธรรมชาติ และถ้าหากทุกคนทำเหมือนๆ กัน ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะทำตามๆ กันไปโดยอัติโนมัติครับ เสมือนเป็นการปลูกจิตสำนึกทางอ้อมผ่านการกระทำนั่นเอง
บางครั้งที่เราไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลหรือป่าเขาลำเนาไพรที่มีสิ่งละอันพันน้อยมากมายตามรายทางที่เราอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นหินสวย ๆ ดอกไม้ใบหญ้า หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก แต่รู้ไหมครับว่าการกระทำเหล่านี้ส่งผลร้ายต่อระบบนิเวศน์อย่างมหาศาล และเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งงแวดล้อมอีกด้วย จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราจะเก็บความทรงจำนั้นผ่านภาพถ่ายหรือจดจำไว้ในห้วงความทรงจำที่ไม่ว่ากี่ปีเราก็จะยังคงรำลึกถึงความทรงจำดีดี ผ่านภาพถ่ายได้เสมอโดยไม่ต้องเก็บอะไรกลับมาเลยครับ
แม้การกระทำที่ละเลยต่อธรรมชาติจะยังไม่เห็นผลกระทบภายในวันนี้หรือในเร็ววัน แต่คนรุ่นลูก รุ่นหลานและรุ่นต่อ ๆ ไปของเรา อาจต้องเจอกับเหตุการณ์หรือภัยธรรมชาติที่เกิดจากน้ำมือของคนรุ่นก่อนๆ ที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ถ้าอยากให้ธรรมชาติที่สวยงามอยู่กับเราไปนานๆ ควรลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการไม่ทิ้งขยะในทิ้งไม่ควรทิ้ง ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วครับ และสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวธรรมชาติก็อย่าลืมนำเคล็ดลับการท่องเที่ยวแบบอีโค่นี้ไปใช้กัน แล้วอย่าลืมเพิ่มความคุ้มครองให้ตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยประกันอุบัติเหตุฟิตแอนด์ฟิน 365 จากแมนูไลฟ์ จ่ายเบี้ยเพียงวันละ 1 บาท แค่ 365 บาท แต่คุ้มครองสูงสุดถึง 300,000 บาท พร้อมคุ้มครองคุณทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชม.อีกด้วยครับ