การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการที่ประเทศจะก้าวหน้าไปได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยคนที่ได้รับความรู้ที่ดี มีระบบความคิดที่ดี การอบรมสั่งสอนที่ดี และที่สำคัญระบบการศึกษาต้องดีด้วย เพื่อให้เข้ากับวันครู เลยจะพาไปส่อง 5 ประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ว่าเขาทำกันอย่างไร ถึงได้มีระบบการศึกษาที่ดีและได้มาตรฐาน จนทำให้ติดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ไปดูกันครับ
ที่มาของข้อมูล : learningcurve-th.com, wowyummyfood.com, thepotential.orgระบบการศึกษาของเนเธอร์แลนด์จะแตกต่างจากที่อื่น โดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะให้อิสระโรงเรียนในการจัดการศึกษาอย่างเต็มที่ จะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องการบริหารจัดการของโรงเรียน หรือวิธีการสอนของครูแต่อย่างใด ทำให้การศึกษามีความหลากหลาย เด็กๆสามารถเลือกแผนการเรียนและโรงเรียนที่อยากเข้าได้ ในขณะที่ครูก็สามารถเลือกใช้วิธีการสอนในแบบของตนเองได้ด้วยเช่นกัน มีงานวิจัยของ Unicef ในปี 2556 ระบุไว้ว่า เด็กชาวเนเธอร์แลนด์เป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่สั่งการบ้านเยอะจนกว่านักเรียนจะขึ้นระดับมัธยม ทำให้ไม่สร้างความกดดันและความเครียดให้แก่นักเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระบบการศึกษาที่กำลังมุ่งหน้านำประเทศอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปฏิรูปการศึกษาเป็นอย่างมาก
เด็กสิงคโปร์ทำคะแนนได้สูงมากทีเดียวในการสอบ PISA ซึ่งเป็นการสอบที่มีเป้าหมายเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาและเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่ระบบการศึกษาของที่นี่ถือว่าสร้างความกดดันและความเครียดให้กับเด็กอายุน้อยๆ สิงคโปร์เลยปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ และนั่นทำให้ทำให้ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านของตัวระบบการศึกษาเอง และด้านของเด็กเองก็มีความสุขกับการเรียนและมีอิสระมากยิ่งขึ้น โดยมีการปฏิรูปดังนี้
ลดการสอบให้น้อยลงเบลเยี่ยม มีระบบการเรียนการสอนที่มีความแตกต่างตามภูมิภาคทั้งภาษาดัตช์ เยอรมัน และฝรั่งเศส โดยแบ่งประเภทของโรงเรียนมัธยมศึกษาออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ โรงเรียนมัธยมทั่วไป โรงเรียนเทคนิค โรงเรียนอาชีวะ และสถาบันศิลปะ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เบลเยียมเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยงบประมาณแผ่นดินจะถูกนำไปทุ่มให้กับการศึกษามากที่สุด เน้นในเรื่องของมาตรฐานการศึกษา และพยายามเปิดโอกาสให้ประชาชนในประเทศทุกคนมีสิทธิทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน จึงไม่มีการสอบเข้า และไม่เก็บค่าเล่าเรียนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ การศึกษาเลยเป็นทรัพยากรที่สำคัญ เลยทำให้สวิตเซอร์แลนด์มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง ที่ดีแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรงเรียนเอกชนทั่วไปค่อนข้างแพง นักเรียนส่วนใหญ่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนรัฐบาล โดยรัฐแต่ละรัฐมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริการทางศึกษา ระดับอนุบาล มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ทำให้การศึกษานี้อาจจะแตกต่างกันในระหว่างรัฐ โดยโรงเรียนจะสอนในภาษาที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับถิ่นที่อยู่ ซึ่งภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี จะเป็นภาษาที่ใช้สอนมากที่สุด และตั้งแต่ระดับมัธยมเป็นต้นไป เหล่าเด็กๆ จะถูกแบ่งให้เล่าเรียนตามความสามารถและความถนัดที่พวกเขามี
เป็นประเทศที่มีการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เพราะระบบการศึกษาที่ถูกออกแบบมาให้เท่าเทียม ไม่แบ่งชนชั้นเด็กเก่ง เด็กไม่เก่ง ทำให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเท่ากันหมด ลดช่องว่างระหว่างเด็กเก่งและเด็กไม่เก่งให้น้อยลง นโยบายการบ้านน้อยของโรงเรียน ทำให้เด็กมีเวลาพัฒนาตัวเองในด้านอื่นๆ รวมไปถึงการสอบวัดผลที่มีครั้งเดียวตอนที่นักเรียนอายุ 16 ปี
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญกับเด็กทุกคน หากได้รับการศึกษาที่ดี ย่อมมีความได้เปรียบ ช่วยต่อยอดให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก การส่งลูกเรียนหนึ่งคน มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ ดังนั้นควรเริ่มเก็บออมไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกตั้งแต่วันนี้ พร้อมความปลอดภัยต่ออุบัติเหตุและสุขภาพของลูกในวันหน้า เลือกแมนูไลฟ์ Max Kids ที่ออมสั้นเพียง 8 ปี แต่คุ้มครองยาวนานถึง 18 ปี เก็บออมอย่างต่อเนื่อง รวมเงินคืนตลอดสัญญา 180%** แถมยังคุ้มครองสำหรับอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 10,000 บาทต่อครั้ง ช่วยค่าชดเชยเมื่อนอนในโรงพยาบาล สูงสุดถึง 1,000 บาทต่อวัน* ได้ทั้งเก็บออม ได้ทั้งสุขภาพ เลือกแมนูไลฟ์ Max Kids
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แมนูไลฟ์ Max Kids : https://bit.ly/2yeH9fp