สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่หายไปและเริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังมีอีกหนึ่งภัยที่คนไทยต้องเฝ้าระวังนั่นก็คือ ไวรัสโคโรนา หรือ ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ และวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการสวมหน้ากากอนามัย วันนี้เลยจะมาแนะนำว่าหน้ากากอนามัยแบบไหนที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ แบบไหนที่ป้องกันไวรัสนี้ได้ หน้ากากแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร มีวิธีเลือกซื้ออย่างไร รวมถึงวิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง มาฝากทุกคนกันครับ
อย่างไรก็ตาม การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ 100% ซึ่งหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ถึง 100% ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุ การใส่หน้ากากอนามัยจึงแค่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสจากการไอหรือจาม ป้องกันได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ผู้ใช้ยังมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้
ที่มาของข้อมูล : bangkokbiznews.com, wongnai.com, mheemhee.com
การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ต้องเจอกับความเสี่ยงมากมายที่มีอยู่รอบตัว โดยไม่สามารถคาดเดาได้ว่า จะต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง ไหนจะฝุ่น PM 2.5 ไหนจะไวรัสโคโรนา(ไวรัสโควิด-19) และก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีโรคระบาดอะไรเกิดขึ้น เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันนี้ ด้วยประกันสุขภาพ ฟินชัวรันส์ ที่ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปี รักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ไม่จำกัดครั้ง สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อปี ที่สำคัญให้ความคุ้มครองการเจ็บป่วยจากฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโคโรนา(ไวรัสโควิด-19)
SAFE ตัวเองจาก ไวรัสโคโรนา(ไวรัสโควิด-19)และฝุ่น PM2.5 ด้วยฟินชัวรันส์